เดโมเพาเวอร์ ประเทศไทย ขยายสถาบันฝึกอบรมอคาเดมี่ ผนวกออฟไลน์เข้าออนไลน์


เดโมเพาเวอร์ ประเทศไทย ขยายสถาบันฝึกอบรมอคาเดมี่ ผนวกออฟไลน์เข้าออนไลน์


คุณเดิร์ก ยัน เหร์มัน อาร์ทส ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โอเอ็มจี โฮลดิ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งบริษัทในเครือประกอบไปด้วย บริษัท แอคมีเดีย (ไทยแลนด์) จำกัด บริษัท เดโม เพาเวอร์ (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท ยู-มาร์เก็ตติ้ง อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด และ บริษัท เคทู อินไซท์ จำกัด ผู้นำการให้บริการโซลูชั่นทางด้านสื่อโฆษณา และกิจกรรมทางการตลาดในร้านค้าปลีกสมัยใหม่ เปิดเผยว่า 

“เดโมเพาเวอร์ เป็นบริษัทที่ให้ความสำคัญเรื่องฝึกอบรมพนักงาน บริษัทจึงลงทุนพัฒนา เดโมเพาเวอร์ อคาเดมี่ เพื่อใช้ฝึกอบรมพนักงานประจำ และพนักงานสาธิตสินค้าซึ่งเป็นพนักงานชั่วคราว เพื่อส่งต่อข้อความจากแบรนด์สู่พนักงานสาธิตสินค้าให้มีประสิทธิภาพสูงสุด หลักสูตรหลักจึงเน้นไปที่การอบรมความรู้สินค้า สุขอนามัยประกอบอาหาร ทักษะการขาย  และทักษะการให้บริการ ด้วยประสบการณ์กว่า 25 ปี สถาบันจัดอบรมไปแล้วกว่า 55,000 ครั้ง ครอบคลุม 300 แบรนด์ มีพนักงานเข้าอบรมมากกว่า 450,000คน เนื่องจากผลิตภัณฑ์บางประเภทจำเป็นต้องฝึกให้พนักงานได้เห็น-สัมผัส-ชิม-ดมกลิ่น-ทดลองใช้ สินค้าจริง รวมไปถึงการฝึกซ้อมแบบ Role Play เพื่อเสริมสร้างความรู้สึกเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์นั้น ๆ สถาบันก็ได้เพิ่มจำนวนเวิร์กช็อปออฟไลน์ให้มากขึ้นอย่างต่อเนื่อง 

ในปี 2560บริษัทเห็นการเติบโตอย่างรวดเร็วของลูกค้าในต่างจังหวัด บริษัทจึงเปิดสถาบันอบรมย่อยในอีก 3 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ ขอนแก่น และสุราษฎร์ธานี พื้นที่ที่ครอบคลุมมากขึ้นนี้ แสดงถึงศักยภาพด้านการฝึกอบรมพนักงาน ที่มีมาตรฐานเดียวกันของเดโมเพาเวอร์ อคาเดมี และการควบคุมมาตราฐานราคาค่าใช้จ่ายได้ถูกลง สร้างความภูมิใจให้บริษัทเป็นอย่างมาก บริษัทสามารถส่งมอบผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI)ให้ลูกค้าได้ดีขึ้น เพิ่มโอกาสประชาสัมพันธ์ตราสินค้า ทั้งในแง่ของประโยชน์จากแบรนด์และผลิตภัณฑ์ และส่งมอบประสบการณ์ไปยังกลุ่มนักช้อปเป้าหมาย ได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เดโมเพาเวอร์ อคาเดมี่ มีส่วนร่วมช่วยให้บริษัท เข้าถึงนักช้อปที่ไม่ซ้ำกันมากกว่า 40 ล้านคน ต่อปี ทั่วประเทศ”

คุณเดิร์ก เสริมต่อว่า “ปัจจุบันเป็นยุคInternet Of Thingsเดโมเพาเวอร์ อคาเดมี่ ก็มีการพัฒนารูปแบบการอบรมให้ทันสมัย ทันต่อเหตุการณ์อยู่ตลอดเวลา โดยสร้างหลักสูตรเฉพาะ (Special Programs) เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนไปจากเดิม ปีที่ผ่านมา สถาบันนำเอาเทคโนโลยี Cloud-Based System มาใช้ ทำให้จัดอบรมผ่านระบบE-Learning ครอบคลุมมากถึง 60 จังหวัด ทั่วประเทศไทย ช่วยให้บริษัทผลิตพนักงานสาธิตสินค้าได้มากขึ้น นอกจากนี้ ผู้ฝึกสอนสามารถใช้แท็บเล็ตและสมาร์ทโฟนในการฝึกอบรมผ่านระบบออนไลน์อคาเดมี่ ซึ่งใช้งานได้ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ระบบรายงานผลออนไลน์ ช่วยให้ฝ่ายควบคุมคุณภาพ (QC) และทีมผู้บริหาร สามารถสังเกต ควบคุม ตรวจสอบ คุณภาพการฝึกอบรม ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด 

ปัจจุบัน บริษัทสามารถวัดผลการลงทุนด้านการตลาด ให้กับลูกค้าได้ และให้ความสำคัญในเรื่องผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) มากขึ้น จึงมีการปรับปรุงหลักสูตรการอบรมให้พนักงานสาธิตสินค้าให้สร้างความสนใจกับนักช๊อป เพื่อตัดสินใจซื้อ ณ จุดขายได้ทันที  นอกจากนี้ บริษัทมุ่งเน้นในเรื่องความเท่าเทียมกัน จึงจัดเตรียมสวัสดิการประกันสังคม ให้พนักงานประจำทุกคน รวมถึงพนักงานสาธิตสินค้าที่ทำงานชั่วคราว บริษัทยังเปิดโอกาสให้พนักงานที่สนใจสามารถสมัครเป็นพนักงานประจำได้ ซึ่งก็ได้มีการนำร่องไปกับหลายแผนกแล้ว อาทิ แผนก Sales Creative Operations และ Training เป็นต้น



เกี่ยวกับผู้เขียน

Rattanakorn Sutthiphongkait

Rattanakorn Sutthiphongkait

Marketing Manager